เรื่องที่บางคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการรักษาแบบประคับประคอง

หากว่าเอ่ยถึงการรักษาแบบประคับประคอง เชื่อได้เลยว่าคนไทยรุ่นใหม่หลายต่อหลายคนคงคุ้นเคยกับคำนี้กันมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าในซีกโลกตะวันตก คำนี้ได้เป็นที่รู้จักมาก่อนหน้านี้จำนวนมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี การที่จะทำความเข้าใจเรื่องของการรักษาแบบประคับประคองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนอื่นก็คือการแก้ไขความเข้าใจผิดของเราเองเสียก่อน และเรื่องที่บางคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการรักษาประคับประคองมีอะไรบ้างนั้น มาดูพร้อมๆ กันเลย 

1.รักษาประคับประคองคือการไม่พาไปหาแพทย์หรือเข้าโรงพยาบาล 

สำหรับความเข้าใจผิดอันดับที่หนึ่งซึ่งหลายๆ คนมักจะเป็นกันก็คือ เข้าใจว่าการรักษาแบบประคับประคองนั้นก็คือการไม่พาไปพบแพทย์หรือไปเข้าโรงพยาบาล ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว หากว่าคนไข้จำเป็นต้องได้รับการรักษา หรืออาการป่วยนั้นได้สร้างความทรมานกายให้กับคนไข้ก็ต้องพาไปโรงพยาบาลนั่นเอง เช่น การที่เรานั้น พาคนไข้ไป เพราะคนไข้เกิดอาการติดเชื้อ นั่นก็หมายความว่าคนไข้จะต้องได้รับการให้ยาทางเลือดนั่นเอง อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่อยากให้การดูแลคนไข้ครบถ้วน ก็จะต้องพยายาม ติดต่อกับทางโรงพยาบาลที่เข้าใจกันดีกับการรักษาแบบนี้ หรือจะติดต่อเนอสซิ่งโฮมก็ได้ 

2.การรักษาประคับประคองต้องอยู่แค่ที่บ้านเท่านั้น 

หลายๆคนมักจะเข้าใจไปว่าการรักษาแบบประคับประคองจะต้องอยู่ที่บ้านแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หากว่าเราอยากให้การรักษาเหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุดก็ควรอยู่ในที่ซึ่งสะดวกที่สุด บางบ้านก็อาจจะมีพื้นที่น้อยเกินไป ซึ่งก็จะทำให้เกิดความอึดอัดในตัวบ้าน บ้านไม่รองรับกับการดูแลคนป่วย และหากว่าญาติมีกำลังทรัพย์มากพอ ก็ควรที่จะให้เวลาในการรักษาซึ่งก็คือติดต่อเนิสซิ่งโฮมที่ราคาเหมาะสม และมีการรักษาแบบประคับประคองด้วยก็ดีเช่นกัน เพราะจะได้มั่นใจว่าญาติของเรานั้นจะได้รับการรักษาที่ดีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้หากว่าใครที่พาไปรักษาที่เนิสซิ่งโฮมอย่าลืมติดต่อกับแพทย์ที่ประจำอยู่เนิสซิ่งโฮมนั้นว่า การรักษาจะเป็นไปในขอบเขตของการประคับประคอง กล่าวคือไม่ทำให้ผู้ป่วยได้รับความทุกข์ทรมาณนั่นเอง  

จะเห็นได้ว่า การรักษาคุณภาพชีวิตของคนป่วยให้ดีตราบนานเท่านาน จนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของโลกใบนี้คือสิ่งที่จะช่วยให้คนป่วยรู้สึกดี และรู้สึกได้ถึงความหมายของการอยู่อย่างมีความสุขมากที่สุด ดีกว่าหลอกให้ผู้ป่วยมีความหวัง และจากโลกนี้ไปโดยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสุขภาพของตนเองเลย